ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในทารกแรกเกิด
เด็กที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเลือดออกในสมองระดับที่ 3-4 มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ โดยเป็นผลมาจากการที่ของเหลว ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายในสมองอยู่ตลอดเวลาไม่สามารถไหลออกได้อย่างปกติ เนื่องจากท่อน้ำทิ้งในสมองถูกอุดตันด้วยเลือดเก่า ของเหลวจะถูกสะสมอยู่ภายในโพรงสมอง จากนั้นจะเริ่มขยายตัวออกเหมือนกับลูกโป่ง และกดทับเนื้อเยื่อสมอง ด้วยเหตุนี้ทำให้ศรีษะโตขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าปกติและขนาดรอบศรีษะเพิ่มขึ้น คำภาษาสวีเดนสำหรับภาวะโพรงสมองคั่งน้ำคือ “vattenskalle”
การวินิจฉัย
ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำตรวจพบได้โดยการทำอัลตราซาวนด์สมอง การรักษาทำได้โดยการเอาของเหลวออกเพื่อลดแรงกดดันสมอง ในกรณีที่ไม่รุนแรงสามารถทำการถ่ายของเหลวออกจากไขสันหลัง (lumbalpunktion) หากไม่สามารถแก้ไขอาการให้เป็นปกติได้ ก็สามารถผ่าตัดด้วยการเจาะใส่กระเปาะ (Reservoar) เข้าไปในโพรงน้ำที่ปลายสมอง โดยมีตัวเปิดปิด (en dosa) ที่อยู่ใต้ผิวหนังเพื่อช่วยให้ระบายน้ำออกเป็นประจำได้ง่ายขึ้น กรณีจำเป็นต้องเปลี่ยนกระเปาะในภายหลังไปเป็นท่อที่ใส่ค้างไว้ เพื่อระบายของเหลวออกผ่านสายลงไปยังช่องท้อง
การรักษา
ในการรักษาเราต้องหลีกเลี่ยงแรงดันสูงภายในสมอง และลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระบบปราสาทของเด็ก
เนื้อหา: Kajsa Bohlin Blennow พยาบาลวิชาชีพ