คลอดสัปดาห์ที่ 36-42

พึงทราบว่าเด็กมีพัฒนาการเป็นรายบุคคล ระดับการพัฒนาการอาจขึ้นอยู่กับว่าเด็กได้เกิดมาในช่วงอายุครรภ์สัปดาห์นี้ หรือเด็กได้เกิดก่อนกำหนดของการตั้งครรภ์

พัฒนาการ

การพัฒนาของสมองดำเนินต่อไปอย่างคงที่ เซลล์สมองส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาแล้วการเชื่อมต่อและโครงข่ายทั้งหมดดีขึ้น และพัฒนาขึ้นสมองพัฒนาต่อเนื่องไปจนถึงอายุสองขวบ การมองเห็นเป็นสัมผัสสุดท้ายที่จะเจริญเติบโตและจะยังคงเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงหลังจากช่วงเวลาครบตามกำหนดคลอด เด็กจะมองเห็นได้ดีในระยะใกล้ประมาณ 20-30 เซนติเมตร หน้าที่นิ่ง ๆ และสงบของแม่หรือพ่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เด็กรู้จัก การมองลวดลายและสีที่เข้มจัด อาจจะกระตุ้นเด็กมากเกินไป เด็กสามารถจดจำเสียงที่คุ้นเคยได้และเริ่มจะเพิกเฉยต่อเสียงที่เคยรบกวนการนอน จนถึงช่วงเวลาครบตามกำหนดคลอดเด็กจะสามารถจดจำอารมณ์ของเสียงได้แล้ว

เด็กมีความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเอง และมีความสามารถในการเอามือเข้าหากันและนำมือไปที่ปาก เด็กมีพลังที่จะขยับแขนและขาอย่างแรงและสามารถหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ ได้สามารถยกและตั้งศีรษะเป็นเวลาสั้น ๆ ได้ด้วยตัวเอง

เด็กมีช่วงเวลาของการหลับและตื่นอย่างชัดเจนแต่ยังคงสับเปลี่ยนช่วงเวลาของการหลับและตื่นไปมาอย่างรวดเร็วและจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้ เด็กสามารถตื่นได้นานขึ้นเล็กน้อยและสนใจที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคุณผู้ซึ่งเป็นพ่อแม่

การพยาบาลทารกแรกเกิด

ในช่วงแรกของชีวิตเด็กบางส่วนจำเป็นต้องได้รับการบำบัดในเบาะทำความอุ่น ซึ่งเป็นเบาะควบคุมอุณหภูมิด้วยน้ำที่จะรักษาอุณหภูมิให้อบอุ่น อุณหภูมิร่างกายปกติของเด็กมีความหมายอย่างยิ่งต่อสุขภาวะ การเจริญเติบโต และพัฒนาการของเด็ก เบาะทำความอุ่นจะมีมุ้งอยู่ด้านบนเพื่อป้องกันแสงที่จ้า เนื่องจากสมองที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่การพยาบาลเด็กจึงต้องให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย เด็กจะได้รับการดูแลในที่นอนเด็กมีลักษณะเหมือนรังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับเด็ก เพื่อลดช่วงเวลาที่รบกวนเด็กการปฏิบัติการดูแลเด็กจะได้รับการวางแผนมาอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อเป็นการลดช่วงเวลาในการรบกวนเด็กข้อปฏิบัติในการพยาบาลดูแลจึงวางแผนมาอย่างละเอียด

เด็กบางส่วนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านการหายใจในช่วงเวลาที่จำกัด ตัวอย่างเช่น เครื่องเป่าความดันลมเพื่อเปิดขยายทางเดินทายใจ (CPAP) เด็กอาจมีการเต้นของชีพจรและการหายใจที่ยังไม่สมดุล

การให้อาหารแก่เด็กสามารถให้ของเหลวที่มีสารอาหารในระยะแรก เด็กบางส่วนสามารถรับอาหารลงท้องได้เล็กน้อยด้วยการใช้สายยางสอดจากจมูกลงไปยังกระเพาะอาหาร ในขณะที่เด็กอื่น ๆ อาจรับอาหารทางปากด้วยการดูดนม ถ้วยป้อนอาหารหรือขวดนม เจ้าหน้าที่จะกำหนดวิธีการรับอาหารของเด็ก โดยขึ้นอยู่กับความสามารถของเด็กและความต้องการของพ่อแม่

ขณะนี้อาจจะถึงเวลาแล้วที่เด็กจะย้ายออกจากเบาะทำความอุ่น ไปยังที่นอนเด็กปกติที่มีมุ้งเพื่อกันแสง ซึ่งจะเป็นเวลาใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเด็ก (สัปดาห์ที่เด็กเกิดและเด็กเจริญวัยได้ถึงระดับใด) แม้ว่าเด็กจะได้รับการดูแลในที่นอนปกติแล้วก็ยังต้องใส่เสื้อแขนยาว ซึ่งสามารถขอยืมได้จากทางโรงพยาบาล และนี่อาจเป็นเวลาที่คุณและลูกจะได้อยู่ด้วยกันในห้องครอบครัวภายในแผนกนี้

ฉันในฐานะพ่อแม่จะทำอะไรได้

คุณและลูกของคุณจะรู้สึกดีจากการที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน ๆ ควรวางแผนการมีส่วนร่วมในช่วงเวลาที่ป้อนอาหาร เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ หรือชั่งน้ำหนักให้แก่เด็ก เพื่อให้คุณได้อยู่และดูแลลูกของคุณร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ และเพื่อให้คุณได้เรียนรู้ลูกของคุณ รวมทั้งได้เห็นว่าลูกของคุณมีพัฒนาการไปอย่างไรบ้าง เด็กเริ่มแสดงความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวเอง และคุณที่เป็นพ่อแม่สามารถสร้างสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบเหมาะสมและกลมกลืนรอบตัวเด็ก ทั้งเพื่อให้นอนหลับสบายและเพื่อให้ตื่นตัว เด็กหลายคนจะได้ประโยชน์จากการใช้เวลาอยู่ด้วยกันหากในขณะนั้นเด็กมีสิ่งหนุนรองรอบตัวอยู่ในท่าที่สบาย ให้พูดคุยกับลูกด้วยโทนเสียงที่นุ่มนวลหรือร้องเพลงกล่อมเบา ๆ เด็กสามารถจดจำเสียงของคุณได้ใบหน้าของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งกระตุ้นสายตาที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก ๆ ให้ลูกมีชิ้นผ้าที่มีกลิ่นของคุณไว้ใกล้ ๆ กับใบหน้าของลูก

ทันทีที่ลูกของคุณมีอาการคงที่ดีแล้ว สามารถยกขึ้นมารับการบำบัดแบบเนื้อแนบเนื้อบนหน้าอกของคุณ ให้พยายามหาเวลาบำบัดดูแลเด็กด้วยวิธีเนื้อแนบเนื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะการบำบัดนี้มีผลเชิงบวกหลายประการสำหรับพัฒนาการและสุขภาวะของเด็กทั้งยังช่วยเด็กให้มีการหายใจ การเต้นของชีพจร อุณหภูมิของร่างกาย และระบบการย่อยอาหารที่เสถียรมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการหลั่ง"ฮอร์โมนรู้สึกดี" ทั้งของเด็กและของคุณซึ่งเป็นพ่อแม่ออกมาด้วย เจ้าหน้าที่จะช่วยคุณจัดท่าของเด็กให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อที่คุณและลูกจะได้มีช่วงเวลาแห่งความด้วยกันที่แผนกนี้มีอุปกรณ์ช่วยอุ้มเด็กอยู่หลายแบบ กรุณาสอบถามจากเจ้าหน้าที่เพื่อที่พวกคุณจะได้รับความช่วยเหลือในสิ่งที่เหมาะสมกับครอบครัวของคุณ

คุณสามารถเริ่มกระตุ้นเต้านมเพื่อให้ผลิตน้ำนม หัวน้ำนมหรือน้ำนมเหลือง (คอลอสตรัม) นั้นอุดมไปด้วยพลังงานคุณสามารถให้นมลูกทางปากได้โดยตรงหรือตามวิธีที่ตกลงกับเจ้าหน้าที่เมื่อการให้นมจากเต้าของคุณเข้าที่ดีแล้วแล้วควรฝึกเด็กให้คุ้นเคยกับการลิ้มรสนมสดในปริมาณที่เล็กน้อยในตอนที่เขาตื่นอยู่

สำหรับเด็กแล้วตอนนี้สิ่งสำคัญ คือ การเรียนรู้เรื่องการกินและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการให้อาหารทางสายยาง ตอนนี้ถึงเวลาที่เด็กจะนอนในท่าเข้าเต้านมของแม่ และเรียนรู้การดูดนมจากเต้า หรือให้ทำความรู้จักกับการดูดขวดนมแล้ว ทางแผนกจะมีเจ้าหน้าที่ผู้ให้คำแนะนำการให้นมแม่ หากคุณต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
ทำความเข้าใจกับแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยของแผนก เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อหลีกเลี่ยงกลิ่นแรง เช่นน้ำหอม และรอให้น้ำยาฆ่าเชื้อในมือของคุณแห้งก่อนที่คุณจะอุ้มลูก

ทางเราหวังว่าคุณซึ่งเป็นพ่อแม่จะอยู่ร่วมในการตรวจทางการแพทย์ประจำวันและบอกเล่าเกี่ยวกับลูกของคุณรวมทั้งวางแผนการรักษาพยาบาลร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด

เนื้อหา: Tullikki Stendahl พยาบาลวิชาชีพ